mercredi 1 mars 2017
นิสัย Cr. ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
นิสัย
เวลาคือชีวิต เป็นคำที่เปรียบเทียบได้อย่างชัดเจน เพราะ การใช้ชีวิตคือการใช้เวลาในแต่ละวินาที แต่ละนาที,แต่ละวัน,แต่ละปี จนครบอายุขัย เพราะฉะนั้นเวลามีต้นทุนที่แพงมาก และไม่ได้มาฟรีๆ มีคนเคยเปรียบชีวิต เหมือนขวดแก้ว ถ้ามีของ3กอง ที่ต้องใส่ลงไปในขวดแก้วนี้ กองแรก คือหินก้อนใหญ่, กองที่สองคือ กรวด,กองที่สามคือ ทรายเราจะมีวิธีไหนที่ใส่ของทั้งสามกองลงไปในขวดแก้ว ถ้าเราจัดความสำคัญผิด ใส่ทรายลงไปก่อน เราก็จะไม่สามารถใส่ก้อนหิน และก้อนกรวดได้ ทั้งหมด เพราะทรายได้ใช้พื้นที่ในขวดแก้ว ไปมากแล้ว
ในชีวิตจริง ก้อนหินคือสิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิต เราต้องให้พื้นที่กับก้อนหินก่อน สิ่งสำคัญจริงๆในชีวิตมีไม่มาก แต่จำเป็นต่อชีวิตจิตใจของเรา เราต้องใส่การใช้เวลาชีวิตให้กับสิ่งสำคัญเหล่านี้ก่อน หลังจากนี้ก็ค่อยเติมสิ่งสำคัญลำดับรองลงมาซึ่งก็เปรียบได้กับก้อนกรวด สุดท้ายเราค่อยให้เวลาที่เหลือกับสิ่งที่ไม่สำคัญ เปรียบได้กับทรายที่สามารถสอดแทรกลงไปในช่องว่าที่เหลือในขวดแก้วของเวลาชีวิต
แต่การใช้เวลาส่วนใหญ่เราใช้ไปตามนิสัยที่เราเคยชิน ถ้าเรามีนิสัยที่ไม่ดี เราก็จะสูญเสียเวลา เปรียบได้กับเราสูญเสียชีวิตไปโดยเปล่าประโยชน์
เราควรมีความฉลาดในการใช้เวลาด้วย ใช้เวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เปรียบเทียบเหมือนการตัดต้นไม้ ขวานเราต้องคม เราต้องรับขวานของเราให้คมอยู่เสมอ เพราะเราไม่รู้หรอกว่าเมื่อไหร่ที่เราต้องตัดต้นไม้ แต่ถ้าถึงเวลาตัดเราต้องตัดได้ทันที คนที่ไม่ฉลาดคิดว่าขนาดตัดต้นไม้ยังทำไม่ทัน ฉะนั้นจะไม่ยอมเสียเวลาลับขวาน
เมื่อเรามีเวลาว่างเราควรคิดเสมอถึงการรับขวาน การหาความรู้ความชำนาญ การฝึกฝน ทักษะ ,ฝึกฝนร่างกาย ,ฝึกฝนจิตใจ
วงจรนิสัย ประกอบด้วยหลักๆ3อย่าง
- Cue สัญญาน
- Routine กิจวัตร
- Reward รางวัล
เมื่อมีทั้งสามสิ่งจะเกิดความอยากCraving ทำให้เกิดการวนทำซ้ำๆจนเกิดเป็นนิสัย
นิสัยคือการทำเป็นกิจวัตรโดยไม่ต้องคิด
การที่จะสร้างนิสัยหนึ่งขึ้นมาได้ วงจรนิสัยต้องหมุนวนซ้ำๆแบบไม่ฝืนใจ ทำไปได้เรื่อยๆจนเกิดความเคยชิน
การสร้างวงจรนิสัย เราใช้รางวัลในการขับเคลื่อน นิสัยที่ไม่ดีเกิดขึ้นง่ายเพราะให้รางวัลในระยะสั้น ไม่ต้องรอคอย ทำแล้วได้ทันที ตรงกันข้ามนิสัยที่ดีส่วนใหญ่ให้รางวัลในระยะยาว ต้องใช้เวลา ต้องอดทนรอคอย
เรามีพลังในการเปลี่ยนนิสัย หรือปรับปรุงนิสัยให้ดีขึ้น ซึ่งเปลี่ยนไม่ต้องมาก มีkey habit ไม่กี่อย่าง แต่ถ้าเราสร้างkey habit ได้แล้ว จะส่งผลเป็นลูกโซ่เป็นผลแบบเดียวกับ butterfly effectทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เจริญขึ้น
การเปลี่ยนนิสัยเราต้องมี Will power( กำลังใจที่มุ่งมั่น) Will power สร้างขึ้นได้ เปรียบเสมือนกล้ามเนื้อ ยิ่งใช้มากยิ่งแข็งแรง ยิ่งใช้ยิ่งเพิ่มขึ้น
การฝึก Will power
1. การฝึกสมาธิ สมาธิทำให้จิตมีกำลัง
ฝึกทำกิจกรรมอะไรก็ได้ เช่น วิ่งจ๊อกกิ้ง 30นาทีถึง1 ชม. ,การนั่งหลับตา หรือการว่ายน้ำ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ทำให้เราต้องมีสมาธิ อยู่กับลมหายใจ ถ้าเราสามารถอยู่กับลมหายใจได้นานพอ 30นาทีถึง 1ชม. ก็ถือว่าเป็นการฝึกสมาธิที่ดีแล้ว
2. ตั้งเป้าหมาย เป้าหมายต้องเป็นเป้าหมายที่เราตั้งแล้วเกิดความอยากไปถึงเป้าหมาย เป็นเป้าหมายที่ใหญ่ ท้าทาย
หลักการคือ เราต้องซอยเป้าหมายใหญ่ของเราออกมาเป็นเป้าหมายย่อยๆ เปรียบกับเราอยากวิ่งชนะคนที่อยู่หน้าสุด (เป็นเป้าหมายใหญ่ของเรา) เราก็ตั้งเป้าชนะคนที่อยู่ข้างหน้าเราก่อน เราก็ค่อยๆแซงไปทีละคนๆ ในที่สุดเราก็อาจชนะคนที่อยู่หน้าสุดก็ได้
หรือการปีนให้ถึงยอดเขา เราก็ตั้งเป้าหมายใหญ่คือถึงยอดเขา เราก็ซอยเป็นเป้าหมายย่อยคือ แต่ละจุดของทางเดิน เราก็ค่อยๆเดินไปแต่ละจุดจนถึงยอดเขา
คุณสมบัติเป้าหมายที่ดี
- ต้องเป็นไปได้ ไม่ยากเกินไป ไม่นานเกินไป
- เป็นเป้าหมายที่เกิดจากความต้องการของเราเอง ไม่ใช่เป้าหมายของคนอื่น
3. จดบันทึก เพื่อให้เราเห็นนิสัยของเรา
เป็นการจดบันทึกสถิติต่างๆ , การลงบัญชี , การใช้แอพพลิเคชั่นในมือถือช่วยบันทึก
4. หาข้อมูล เพื่อความเข้าใจในรายละเอียด
การหาข้อมูลทำให้เราสนุกเพราะเข้าใจวิธีการ, ทำให้เรามีทางเลือกในการไปถึงเป้าหมาย ,เราอาจพบทางที่smart ที่สุดที่ไปถึงเป้าหมาย
เช่น การออมเงิน ถ้าเราแค่เก็บเงินใส่กระปุก โดยไม่หาข้อมูลอะไรเลย เราอาจจะเบื่อและไม่สามารถเก็บเงินจนถึงจำนวนที่เราต้องการ แต่ถ้าเราหาข้อมูลเราอาจทำการออมด้วยการซื้อหุ้น,อสังหาฯ ,ลงทุน,ฯลฯ
5. ศึกษาวงจรนิสัยให้เข้าใจ รู้ว่าอะไรคือ Cueสัญญาน, อะไรคือ Routine กิจวัตร ,อะไรคือ Reward รางวัลของวงจรนิสัย ที่เราต้องการ ทำให้เราสามารถ เข้าใจหรือหากิจกรรม Routine ที่ใกล้เคียงกับนิสัยที่เราต้องการเปลี่ยน จนค่อยๆปรับให้เป็นนิสัยที่เราต้องการ ไม่ต้องไปหักดิบ เพราะการหักดิบ เป็นการฝืนใจจนเราไม่สามารถทนทำให้เป็นนิสัยที่ดีได้สำเร็จ
6. ใช้Will power อย่างระมัดระวัง เพราะมีจำกัด
6.1 ทำทีละอย่าง เช่น อยากมีนิสัยการออม ก็ฝึก ทีละอย่าง ไม่ฝึกนิสัยการลดน้ำหนักในเวลาพร้อมกัน เพราะจะทำให้เราไม่มีWill powerเพียงพอ ในการสร้างนิสัยหนึ่งขึ้นมา
6.2 ตัดสิ่งเร้า ,สิ่งยั่วยุ หรือสิ่งที่ขัดขวาง ออกไปให้มากที่สุด
6.3 เตรียมการแก้ปัญหาไว้ล่วงหน้า เช่น ต้องการเข้านอนแต่เช้า ก็เตรียมตำตอบไว้เลย ว่าต้องกลับบ้านไม่สามารถเที่ยวกลางคืนได้เพราะต้องทำอะไรบางอย่างที่บ้าน เพื่อเราจะไม่ต้องเสีย Will power ในขณะนั้น เพื่อจะปฎิเสธ
6.4 กินอาหารให้เพียงพอ เพราะ Will power ต้องใช้ พลังงานจากอาหาร
Cr. ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
จัดการเวลาขั้นเทพ 1https://youtu.be/tU5h5XlJvWM
จัดการเวลาขั้นเทพ 2https://youtu.be/nkJ1mCtXUpI
จัดการเวลาขั้นเทพ 3https://youtu.be/Jtg7e1Jsido
จัดการเวลาขั้นเทพ 4https://youtu.be/FcQVCgNljiA
lundi 13 février 2017
โทรจัน นิวยอร์ค เทรดเดอร์7 Cr. พี่ต้าน mudley group
การพัฒนาตนเอง
- การรับผิดชอบ เราควรจะฝึกการรับผิดชอบตัวเอง การรับผิดชอบคือการยอมรับผลของการตัดสินใจของตัวเอง เราฝึกความรับผิดชอบ ได้ตลอดเวลา เช่นเราต้องยอมรับถ้าทำความผิดพลาด ไม่ต้องโทษใคร หรือไม่ต้องโทษเหตุการณ์หรือชะตา แต่เป็นเพราะตัวเราเอง ยอมรับการเลือก การตัดสินใจและรับผิดชอบผลทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างเต็มใจ การรับผิดชอบที่เกิดจากการที่เราทำผิดเล็กๆน้อยๆ อย่างซื่อสัตย์ทำให้เรามี mindset เรื่องการรับผิดชอบ
- การ ให้และการรับ (Give &Take) ถ้าเราสามารถฝึกการให้โดยไม่ได้หวังผลตอบแทน ให้ทั้งๆที่รู้ว่าเราจะไม่ได้อะไรเลย ให้อย่างเต็มใจ ถ้าเราสามารถทำได้ และทำไปเรื่อยๆ เราจะเข้าใจกฎอะไรบางอย่างที่มีอยู่ในหลัก ของ Give & Take) ซึ่งเป็น mind set ที่ควรปลูกฝังในนิสัย สันดานของเรา
Mind set ที่ดี จะนำพาให้เราไปเจอกลุ่มคน,สังคม ที่มีmindset เหมือนๆกับเรา เมื่อเรามีทิศทางของmindsetที่เราเลือก ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ก็จะมีคนเห็นเราจาก ผลของการแสดงที่เราได้แสดงออกจาก mindsetของเรา
เราควรจะหาเวทีแสดงออก เช่นถ้ามีpoptrade ให้โอกาส traning เรา โดยที่เราไม่ต้องเสีย productivity มาก เราควรจะรับโอกาสนั้นเพื่อเป็นเวทีที่เราจะได้แสดง ถึงแม้ว่าจะเริ่มจากสนามเล็กๆ เมื่อเราสั่งสมประสพการณ์ สั่งสมผลงาน สักวันเราก็จะเจอกับ กลุ่มคน หรือสังคมที่มีmindset คล้ายๆกัน มีทิศทางเหมือนๆกัน และจะเป็นโอกาสที่เราจะพัฒนาต่อไป
การที่เรามีคนสรรเสริญ หรือ ชนะในการเทรดบ่อยๆ อาจทำให้เรามีอีโก้ หรือmindsetที่แย่ได้ สังเกตุได้จากการที่เราไม่สามารถกลับมาเรียนรู้ หรือพัฒนาตนเองได้ หรือ พัฒนาได้ช้า เราควรจะกลับมามองถึงปัญหาที่แท้จริง ว่าจริงๆแล้ว ตัวปัญหาคือตัวเราเอง เราต้องหาทาง ลดego หรือ ล้างmindsetที่ผิดออกจากตัวตนเราให้ได้
อย่าปล่อยให้ ‘’ ตัวปัญหาอยู่ในตัวเรา’’
การพัฒนาทางด้านร่างกายก็มีความสำคัญ เราจะเป็น active trader ได้คือเราต้องทำตัวเป็นนักกีฬา ฝึกแบบนักกีฬา การฝึกเทรดเดอร์ในแคมป์มัดเลย์ มีการฝึกที่สำคัญคือการว่ายน้ำ เพราะกีฬาว่ายน้ำทำให้เราต้องฝึกการหายใจ การมีสมาธิอยู่กับลมหายใจ และการมีสมาธิในระยะเวลาที่ว่ายน้ำทำให้ร่างกายอยู่ในstate ของสมาธิ , กีฬาทุกชนิดมีประโยชน์ ควรฝึกร่างกายให้ active อยู่เสมอ
การฝึกความคิด เราควรฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเช่นเดียวกับการฝึกร่างกาย การคิดบางเรื่องบางครั้งเป็นเรื่องที่ยาก เป็นเรื่องที่คิดไม่ออก แต่เราก็ควรจะฝึกคิด เพื่อให้สมองเรามีความพยายามในการคิด แม้จะคิดไม่ออกก็ตาม เช่นการคิดว่าระบบทุนนิยมทำงานอย่างไร , ตลาดหุ้นทำงานอย่างไร ฯลฯ
การฝึกคิดกลยุทย์ กลยุทย์ของเราคือสิ่งที่เราเก็บสถิติ จากสิ่งที่เราทำได้ดีหลายๆรูปแบบ เราจะประมวลผล จากสิ่งที่เราเคยคิด เคยทำ และผลที่เคยเกิดขึ้น ถ้าเรามีประสพการณ์หลากหลายรูปแบบ เราก็จะมีทุนในการสร้างกลยุทย์ได้หลากหลาย
เช่น การฝึก LEGO SYSTEM ทำให้เราฝึกแก้flow ให้กับLayer ทำให้เรารู้ TP(จุดTake Profit) ซึ่งเป็นพื้นฐานของการกำหนดจุด strike price ในกลยุทย์ option
การฝึกวินัย คำว่าวินัยคือความสม่ำเสมอ ความสม่ำเสมอมีความสำคัญมากในการฝึกฝนเพื่อการพัฒนา เป็นเรื่องที่ต้องมีaction เพราะเป็นสิ่งที่มีแรงต้านทาน เราไม่สามารถพัฒนาได้ถ้าเราไม่ชนะแรงต้านทานของตัวเราเอง เช่นความสะดวกสบาย, ความขี้เกียจฯลฯ ตัวอย่างของการฝึกวินัย เช่น การบันทึก สถิติการเทรดอย่างสม่ำเสมอ, การทำตามแผนการการเทรดให้ได้อย่างสม่ำเสมอ
Cr. พี่ต้าน mudley group
วีดีโอโทรจัน นิวยอร์ค เทรดเดอร์7 https://youtu.be/lxy53oP3X-c
- การรับผิดชอบ เราควรจะฝึกการรับผิดชอบตัวเอง การรับผิดชอบคือการยอมรับผลของการตัดสินใจของตัวเอง เราฝึกความรับผิดชอบ ได้ตลอดเวลา เช่นเราต้องยอมรับถ้าทำความผิดพลาด ไม่ต้องโทษใคร หรือไม่ต้องโทษเหตุการณ์หรือชะตา แต่เป็นเพราะตัวเราเอง ยอมรับการเลือก การตัดสินใจและรับผิดชอบผลทุกอย่างที่เกิดขึ้นอย่างเต็มใจ การรับผิดชอบที่เกิดจากการที่เราทำผิดเล็กๆน้อยๆ อย่างซื่อสัตย์ทำให้เรามี mindset เรื่องการรับผิดชอบ
- การ ให้และการรับ (Give &Take) ถ้าเราสามารถฝึกการให้โดยไม่ได้หวังผลตอบแทน ให้ทั้งๆที่รู้ว่าเราจะไม่ได้อะไรเลย ให้อย่างเต็มใจ ถ้าเราสามารถทำได้ และทำไปเรื่อยๆ เราจะเข้าใจกฎอะไรบางอย่างที่มีอยู่ในหลัก ของ Give & Take) ซึ่งเป็น mind set ที่ควรปลูกฝังในนิสัย สันดานของเรา
Mind set ที่ดี จะนำพาให้เราไปเจอกลุ่มคน,สังคม ที่มีmindset เหมือนๆกับเรา เมื่อเรามีทิศทางของmindsetที่เราเลือก ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ก็จะมีคนเห็นเราจาก ผลของการแสดงที่เราได้แสดงออกจาก mindsetของเรา
เราควรจะหาเวทีแสดงออก เช่นถ้ามีpoptrade ให้โอกาส traning เรา โดยที่เราไม่ต้องเสีย productivity มาก เราควรจะรับโอกาสนั้นเพื่อเป็นเวทีที่เราจะได้แสดง ถึงแม้ว่าจะเริ่มจากสนามเล็กๆ เมื่อเราสั่งสมประสพการณ์ สั่งสมผลงาน สักวันเราก็จะเจอกับ กลุ่มคน หรือสังคมที่มีmindset คล้ายๆกัน มีทิศทางเหมือนๆกัน และจะเป็นโอกาสที่เราจะพัฒนาต่อไป
การที่เรามีคนสรรเสริญ หรือ ชนะในการเทรดบ่อยๆ อาจทำให้เรามีอีโก้ หรือmindsetที่แย่ได้ สังเกตุได้จากการที่เราไม่สามารถกลับมาเรียนรู้ หรือพัฒนาตนเองได้ หรือ พัฒนาได้ช้า เราควรจะกลับมามองถึงปัญหาที่แท้จริง ว่าจริงๆแล้ว ตัวปัญหาคือตัวเราเอง เราต้องหาทาง ลดego หรือ ล้างmindsetที่ผิดออกจากตัวตนเราให้ได้
อย่าปล่อยให้ ‘’ ตัวปัญหาอยู่ในตัวเรา’’
การพัฒนาทางด้านร่างกายก็มีความสำคัญ เราจะเป็น active trader ได้คือเราต้องทำตัวเป็นนักกีฬา ฝึกแบบนักกีฬา การฝึกเทรดเดอร์ในแคมป์มัดเลย์ มีการฝึกที่สำคัญคือการว่ายน้ำ เพราะกีฬาว่ายน้ำทำให้เราต้องฝึกการหายใจ การมีสมาธิอยู่กับลมหายใจ และการมีสมาธิในระยะเวลาที่ว่ายน้ำทำให้ร่างกายอยู่ในstate ของสมาธิ , กีฬาทุกชนิดมีประโยชน์ ควรฝึกร่างกายให้ active อยู่เสมอ
การฝึกความคิด เราควรฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเช่นเดียวกับการฝึกร่างกาย การคิดบางเรื่องบางครั้งเป็นเรื่องที่ยาก เป็นเรื่องที่คิดไม่ออก แต่เราก็ควรจะฝึกคิด เพื่อให้สมองเรามีความพยายามในการคิด แม้จะคิดไม่ออกก็ตาม เช่นการคิดว่าระบบทุนนิยมทำงานอย่างไร , ตลาดหุ้นทำงานอย่างไร ฯลฯ
การฝึกคิดกลยุทย์ กลยุทย์ของเราคือสิ่งที่เราเก็บสถิติ จากสิ่งที่เราทำได้ดีหลายๆรูปแบบ เราจะประมวลผล จากสิ่งที่เราเคยคิด เคยทำ และผลที่เคยเกิดขึ้น ถ้าเรามีประสพการณ์หลากหลายรูปแบบ เราก็จะมีทุนในการสร้างกลยุทย์ได้หลากหลาย
เช่น การฝึก LEGO SYSTEM ทำให้เราฝึกแก้flow ให้กับLayer ทำให้เรารู้ TP(จุดTake Profit) ซึ่งเป็นพื้นฐานของการกำหนดจุด strike price ในกลยุทย์ option
การฝึกวินัย คำว่าวินัยคือความสม่ำเสมอ ความสม่ำเสมอมีความสำคัญมากในการฝึกฝนเพื่อการพัฒนา เป็นเรื่องที่ต้องมีaction เพราะเป็นสิ่งที่มีแรงต้านทาน เราไม่สามารถพัฒนาได้ถ้าเราไม่ชนะแรงต้านทานของตัวเราเอง เช่นความสะดวกสบาย, ความขี้เกียจฯลฯ ตัวอย่างของการฝึกวินัย เช่น การบันทึก สถิติการเทรดอย่างสม่ำเสมอ, การทำตามแผนการการเทรดให้ได้อย่างสม่ำเสมอ
Cr. พี่ต้าน mudley group
วีดีโอโทรจัน นิวยอร์ค เทรดเดอร์7 https://youtu.be/lxy53oP3X-c
dimanche 12 février 2017
โทรจัน นิวยอร์ค เทรดเดอร์ day6 cr.พี่ต้าน mudley group
Time base.
เมื่อก่อนเรามองเทคนิคเคิ้ลในมุมมองของprice base และได้พัฒนา มุมมองใหม่ใน มิติของ เวลา (time base) มอง performance ในระยะของเวลาที่ dealกับ product โดย สังเกตุได้จาก ช่วงที่เป็นไปตามเทรน เราจะได้ reward ในช่วงเวลาที่นานกว่า ช่วงที่เราloss เลยเกิดการวัด performance โดยใช้time base
Machine Learning
เรามีการพัฒนา AI หลายแบบ แต่แบ่ง คร่าวๆเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มที่แรก เน้น hardwareที่มีperformance สูงๆ แต่มีmethode การเรียนรู้แบบ สะเปะสะปะ
กลุ่มที่สอง ไม่ได้เน้น hardware ที่มีperformance สูงๆ แต่เน้น methode ที่ดี
กลุ่มที่สาม เน้นทั้ง hardware ที่มี performance สูงๆและmethode ที่ดี
ในการพัฒนาของai ในกลุ่มที่1 มีการพัฒนาในระดับ ปกติ ส่วน กลุ่มที่2 มีการพัฒนาดีกว่ากลุ่มที่1
กลุ่มที่สามมีการพัฒนาเร็วที่สุด
การพัฒนาai ทำให้เรากัลับมามองวิธีการพัฒนาของเราเอง การพัฒนาai ที่ดี นักพัฒนาพยายามพัฒนาเรียนแบบการคิด และการพัฒนาของตัวเอง
การเรียนรู้ของมนุษย์ช้ากว่า ai เพราะมนุษย์มี ego แต่มนุษย์มี ความเจ็บปวด ซึ่ง ai ไม่มี
ความเจ็บปวดคือระบบป้องกันตัวเองของมนุษย์ เราสร้างอารมณ์เพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวด สุดท้ายเพื่อให้เราไม่ได้รับอันตราย
เหมือนกับการฝึกฝนของนักกีฬา เราจำเป็นต้องรู้ขีดจำกัดของกล้ามเนื้อ และของร่างกาย ถ้าเราฝึกหนักมากเกินไปกล้ามเนื้อเราจะเสียหาย หรือบาดเจ็บจนตายได้ ฉะนั้นการจะพัฒนาจนถึงขั้นเป็นนักกีฬามืออาชีพ จึงจำเป็นต้องมีโค้ช หรือมีวิทยาศาสตร์การกีฬาเพื่อชี้แนะเวลาฝึกฝน ให้สามารถพัฒนาได้สูงขึ้นแต่ไม่เกินขีด จนได้รับอันตราย
Cr. พี่ต้าน มัดเลย์กรุป
lundi 16 janvier 2017
Principle Credit RAY Dalio
Principle คือ หลักการ ทำงาน ของ เรย์ที่ใช้ในการ
-ตั้งเป้าหมาย เน้นตั้งเป้าหมายให้ตรงกับความต้องการจริงๆ ,
-ไม่ยอมแพ้ต่อปัญหา คือ มองว่าการจะไปถึงเป้าหมายเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเจอปัญหา ต้องยอมรับแต่ไม่ยอมจำนนกับปัญหาต่างๆ
-วินิจฉัยปัญหา ให้เห็นและเข้าใจสาเหตุของปัญหาที่จริง,
-ออกแบบวิธีแก้ปัญหา ออกแบบให้มีแผนการที่ชัดเจน มีการจัดอับดับความสำคัญในเรื่องต่างๆ หาคนที่เหมาะสมหรือความช่วยเหลือ มาช่วยให้เข้าถึงเป้าหมาย ,
-ลงมือทำ ถ้ามีแผนที่ได้รับการออกแบบมาดี ก็น่าทำ แต่ต้องมีนิสัยการทำงานที่ดี
และเรย์ นำหลักการเหล่านี้ แยกออกเป็น 210ข้อ ใช้เป็นหลักการในการสร้าง และบริหาร บริดวอร์เตอร์
อ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษ ที่https://www.principles.com/#Principles
ปล.
ผมยอมรับว่า ผมมีประสพการณ์น้อยมากเรื่องการจะมาสรุปหลักการณ์ในPrinciple ผมได้แค่จำคำพูดของคนแปล ซึ่งผมรู้สึกอายถ้าเอาคำพูดของคนแปลมาหลายๆที่ แล้วก๊อปมาแปะบล๊อค เพราะทำได้ไม่ดี เท่าต้นฉบับและยังก๊อปเค้าอีก ผมจะใช้หลักการณ์ในPrinciple มาฝึกกับการเทรด แล้วค่อยๆมาบอกว่าหลักการณ์ที่ผมเอามาใช้ ใช้ได้ผลยังไงอันนี้น่าจะเหมาะกว่า
-ตั้งเป้าหมาย เน้นตั้งเป้าหมายให้ตรงกับความต้องการจริงๆ ,
-ไม่ยอมแพ้ต่อปัญหา คือ มองว่าการจะไปถึงเป้าหมายเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเจอปัญหา ต้องยอมรับแต่ไม่ยอมจำนนกับปัญหาต่างๆ
-วินิจฉัยปัญหา ให้เห็นและเข้าใจสาเหตุของปัญหาที่จริง,
-ออกแบบวิธีแก้ปัญหา ออกแบบให้มีแผนการที่ชัดเจน มีการจัดอับดับความสำคัญในเรื่องต่างๆ หาคนที่เหมาะสมหรือความช่วยเหลือ มาช่วยให้เข้าถึงเป้าหมาย ,
-ลงมือทำ ถ้ามีแผนที่ได้รับการออกแบบมาดี ก็น่าทำ แต่ต้องมีนิสัยการทำงานที่ดี
และเรย์ นำหลักการเหล่านี้ แยกออกเป็น 210ข้อ ใช้เป็นหลักการในการสร้าง และบริหาร บริดวอร์เตอร์
อ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษ ที่https://www.principles.com/#Principles
ปล.
ผมยอมรับว่า ผมมีประสพการณ์น้อยมากเรื่องการจะมาสรุปหลักการณ์ในPrinciple ผมได้แค่จำคำพูดของคนแปล ซึ่งผมรู้สึกอายถ้าเอาคำพูดของคนแปลมาหลายๆที่ แล้วก๊อปมาแปะบล๊อค เพราะทำได้ไม่ดี เท่าต้นฉบับและยังก๊อปเค้าอีก ผมจะใช้หลักการณ์ในPrinciple มาฝึกกับการเทรด แล้วค่อยๆมาบอกว่าหลักการณ์ที่ผมเอามาใช้ ใช้ได้ผลยังไงอันนี้น่าจะเหมาะกว่า
vendredi 6 janvier 2017
Lego system เครดิต พี่ต้าน mudley group
LEGO SYSTEM
ประกอบด้วย Layer แต่ละ Layer คือการตัดสินใจ เราจะตัดสินใจใน Leyer 1 ว่าจะ ซื้อ หรือ ขาย เมื่อตัดสินใจแล้ว จะเกิด position ขึ้น เราต้องรอจนรู้ว่าเราผิด หรือถูก ตามRisk Parameter ของเรา ถ้าถูก เราก็ทำ layer 1 ใหม่ซ้ำแบบเดิม แต่ถ้าผิด จะเกิด flow มาสู่การทำ Layer2 โดย Layer2 ต้องใช้ Method แบบเดียวกับ Layer1
เช่นใช้ Method Moving Average ก็ต้องใช้ Moving Average ตลอด ทุกLeyer ในLEGO นี้ แต่จะต้องเปลี่ยน Product ในแต่ละ Layer ไม่ให้ซ้ำกัน
โดยจำนวน lot ควรจะเท่ากับ Leyer1 ถ้าถูก ก็จะนำcash flow มาแก้ การผิด ใน Layer1 คือ ถ้า Layer2 ถูก เราจะสะสมcash flow จนได้จำนวนเท่ากับ หรือ มากกว่า การผิดในLayer1 ซึ่งก็เหมือนลักษณะการหา Cash flow มา cut loss ให้กับ Layer 1
แต่ ถ้า Layer2ผิด (รอจนรู้ว่าผิด คือเทียบกับค่าRisk Parameter) เราจะflowไป ทำ Layer3 ซึ่งต้องใช้Method เดียวกัน แต่เปลี่ยนproduct โดยจำนวนlot อาจจะใหญ่มากกว่า ขนาด Layer 1 ได้
การทำLEGO เราเน้นเรื่องการFlowของLayer ,การหาcash flow ของLayer 2,3,4 มาแก้ position ที่ผิดใน Layerที่1 ,การรู้สถิติWin rate, Risk Parameter ของ Method, Max Drawdown ของระบบLEGO หลังจากนี้เมื่อเรา มี Cash flow มากกว่า Max DDของ LEGOตัวที่1 เราสามารถ เอา Cash flow ที่เหลือนั้น มาใช้ 1. สร้าง LEGOตัวที่2 เหมือน LEGO ตัวที่1(ใช้Method เดียวกับ LEGO ตัวที่1)
2. สร้างLEGOตัวที่2 ใช้Method ที่2
3. ใช้แก้LEGO 1
4. ใช้ตามใจในพื้นที่ส่วนตัว
การใช้ Cash flow ควรจะกำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์ ว่าจะใช้ในอะไร อย่างละกี่เปอร์เซ็นต์ ควรกำหนดให้ชัดตั้งแต่เริ่มต้น
เครดิต พี่ต้าน https://youtu.be/HqRAKY6Y5zM
mercredi 4 janvier 2017
โทรจัน นิวยอร์ค เทรดเดอร์ day4 cr.พี่ต้าน mudley group
การลงทุนในทรัพยากรณ์ของวงการเทรด
ทรัพยากรณ์ที่สำคัญอันดับต้นๆ ของวงการเทรด คือทรัพยากรณ์มนุษย์
การที่จะเป็นเทรดเดอร์ที่ดีได้ ไม่ใช่ว่าคนทุกคนจะเหมาะหรือเข้าใจ และพัฒนาตัวเองได้ เพราะธรรมชาติของคน คนส่วนใหญ่ เป็นคนที่อยู่ในระดับเฉลี่ย มีเพียงส่วนน้อยมากๆที่เป็นมนุษย์ที่มีคุณสมบัติที่ดี พัฒนาได้ง่าย
ถ้าเรามองในระดับประเทศ เช่นประเทศอเมริกา ที่นั่นมีมุมมองเกี่ยวกับทรัพยากรณ์มนุษย์ ว่ามีคุณภาพที่ต่างกัน จึงมีคำว่าMean(คนจำนวนมากในสังคม มีความสามารถทั่วๆไป สามารถ ผลิตproductivity ได้ แต่ไม่ได้มาก ) Standard Divition 1,2,3 พวกคนที่เป็น 3SD เป็นพวก มีความสามารถสูงมากในสังคม เป็นผู้นำ หรือมีความสามารถเปลี่ยนแปลงสังคม , เป็นพวกอัจฉริยะ ในด้านต่างๆ , ฯลฯ คนกลุ่มนี้รัฐบาลจะให้ความสำคัญ ให้ผลประโยชน์ต่างๆกับคนกลุ่มนี้ เพราะเค้าเชื่อว่าการลงทุนในคนที่มีคุณภาพสูง คนเหล่านี้สามารถสร้างproductivity ให้กับประเทศได้มาก จึงมีความคุ้มค่ากับการลงทุนในทรัพยากรมนุษย์ (เรียงตามความรู้ความสามารถ 3SD,2SD,1SD, Mean, พวกที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย)
คนที่มีproductivity สูงๆ ส่วนใหญ่ เริ่มจากการมีทรัพยากรณ์จำกัด แต่เป็นคนที่มีทุนทางความคิดสูงมาก
การสร้างModel เทรด
1. คิดจากจุดอ่อนของมนุษย์ เช่นความกลัว ในการเทรด เมื่อ ราคาตกมาที่new low คนส่วนใหญ่จะเกิดความกลัว เรารู้จุดอ่อน เราจะได้เปรียบในการเทรด
จุดอ่อน เราสังเกตุจากตัวเราเองก่อน ถ้าเราเข้าใจจุดอ่อนตัวเอง เราก็จะเข้าใจจุดอ่อนคนอื่นด้วย เพราะเราเป็นคนเหมือน กับคนทั่วๆไป มีความรู้สึก จิตใจ อารมณ์ต่างๆ คล้ายๆกัน
ในการฝึกเทรดเดอร์ พี่ต้าน ให้ฝึกเลิกสิ่งเสพติด ( พฤติกรรมเสพติด ที่ส่งผลไม่ดีในการเทรด)โดยทำเป็นบัญชี รายการ สิ่งเสพติด
2. เลิกสิ่งเสพติด (เลิกพฤติกรรมต่างๆที่อยู่ในบัญชี)
3. เข้าใจเกมส์เทรด เรื่องกฎ,กติกา,จุดอ่อน ,จุดแข็งฯลฯ
เช่น Game Macro มีจุดอ่อนตรงไหน ถ้า drive คนส่วนใหญ่ไม่ได้ หรือ เศรษฐกิจไม่เป็นดังคาด ผลลัพธ์ Value ก็จะไม่เป็นอย่างที่เราต้องการ
- การเทรด มี จังหวะในการเทรด มีจังหวะของเรา และมีจังหวะของคนอื่น ถ้าเราไม่เคยคิด ไม่เคยมอง เราจะคิดว่าการเทรดมีแต่จังหวะของเราฝ่ายเดียว ทำให้เราทำอะไรผิดพลาดได้ง่าย
เช่น เราเทรดแบบMoving Average แบบ week แต่ ตอนนี้เป็นรอบของช่วงเวลาที่ยาว ก็อาจจะไม่ใช่จังหวะของเรา เราต้องรู้ตัว ว่าเราควรจะทำยังไง อาจจะต้องหยุด หรือ ลด
- เราจะเติบโตได้ เราต้องก้าวข้ามความเชื่อของตัวเองให้ได้
- ต้องรู้จักลด หรือหยุด เมื่อ Ego เราใหญ่ขึ้น ต้องรู้จักใส่เพิ่ม เมื่อ เราความมั่นใจ ลดน้อยลง, เทรดผิดทาง
แต่ต้องทำวงจรนี้ได้โดยที่ไม่ทำให้เกิดRisk เพิ่มเช่น เมื่อชนะมากๆ ก็เกิด EGO เราพยายามทำยังไงก็ได้ให้กลับมาสู่ระดับความเจียมตัวที่พร้อมที่จะเรียนรู้ เช่นดึงเงินออก , จำกัดทรัพยากร แต่เวลาที่เราเทรดผิด เราก็นำเงินกำไรที่สะสมไว้ มาใส่เพิ่ม โดยวงจรทั้งหมดต้องไม่ทำให้ความเสี่ยงเพิ่ม
Cr.พี่ต้าน mudley group https://youtu.be/uTMuOShG3gw
lundi 2 janvier 2017
โทรจัน นิวยอร์ค เทรดเดอร์ day3 cr.พี่ต้าน mudley group
Zero alpha
การที่เราจะมีแนวคิดแบบนี้เราต้องไม่ยึดติดกับ การใช้systemอะไร, มีreturn(ผลตอบแทน)เท่าไหร่ , มีperformance (สมรรถนะหรือความสามารถ)มากหรือน้อย, หรือใช้Benchmarkอะไร(การใช้เกณฑ์มาตราฐานอะไรเพื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงาน)
เราไม่ควรมาให้ใครกำหนดBenchmarkให้เรา เพราะอาจจะไม่เหมาะกับเรา เช่น เราทำแนวทางของ close system แต่ เราใช้เกณฑ์มาตราฐาน แบบReturn(ผลตอบแทน)เราก็ไม่สามารถทำ true alphaได้หรือทำได้แต่ยากมากๆ , หรือเราทำในแนวทางของ Return(ผลตอบแทน)แต่เราใช้เกณฑ์มาตราฐานของclose systemซึ่งวัดความสามารถในการอยู่รอดในตลาด ซึ่งจะไม่คำนึงถึงการที่ได้ผลตอบแทนที่สูง ทางที่ดีเราควรมีเกณฑ์มาตราของระบบของเราเอง
Alpha มาจากสิ่งที่มีคุณสมบัติเหนือเกณฑ์มาตราฐานของสิ่งนั้นๆ เช่น alpha manคือคนที่มีความสามารถ หรือคุณสมบัติเหนือคนธรรมดาทั่วไป
แนวคิดการทำalpha ในการเทรดคือ การทำให้ return เหนือ benchmark เช่น alpha ของนักลงทุน คือ การทำผลตอบแทนให้มากกว่าทุน แต่ถ้าในระยะยาว เราพยายามทำperformanceบน alpha base เราจะ ขึ้นอยู่กับperformaceมากเกินไป จึงมีนักคณิตศาสตร์เสนอแนวคิด Zero alpha แนวคิดนี้ คิดว่าเราจะได้เปรียบในตลาด ที่ถูกผลักดันด้วยความคาดหวังได้อย่างไร
Zero alpha คือแนวคิด ทำโมเดลเทรดที่จุด ไม่มีผลตอบแทน แต่เราไม่ขาดทุน เป็นความคิดที่อยู่ในมุมมองที่ต่างจากความคาดหวัง ทำให้ที่จุด Zero alpha มีคนใช้จุดนี้มาทำstrategy(กลยุทย์)ของโมเดลเทรดน้อยมาก เพราะขัดกับความต้องการของการเทรด(คือการเทรดให้มีผลตอบแทน เป็นการไม่มีผลตอบแทน) แต่ในทางปฎิบัติถ้าโมเดลสามารถดำเนินไปได้ โดยวางกลยุทย์ในจุดที่ไม่ได้ผลตอบแทนแต่ไม่ขาดทุน เราจะได้รับผลอะไรบางอย่าง
เราต้องพัฒนา แนวคิด บนพื้นฐานที่ใช้ได้จริง เพราะจะเป็นแนวคิดที่นำไปสู่ความรู้ที่ควรจะรู้ แต่ถ้า เป็นแนวคิดที่ใช้ได้ไม่จริง เราจะมีแนวโน้มไปหาเหตุผลมาสนับสนุน แนวคิดที่ใช้ได้ไม่จริง
เครดิต พี่ต้าน Mudley group https://youtu.be/WpqrCmxwkIA
dimanche 1 janvier 2017
โทรจัน นิวยอร์ค เทรดเดอร์ day2 Cr.พี่ต้าน mudley group
Mind set( ต่อ)
จิตใจเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ของอาชีพเทรดเดอร์ ซึ่งต้องฝึกฝน และให้ความสำคัญไม่น้อยกว่าเรื่องอื่นๆ จิตใจมีทั้งเรื่อง อารมณ์,ความเสียใจ, ความคาดหวัง ,ความกลัว,ความโลภฯลฯ เช่น ในเวลาที่เทรด เรามีความกลัวเรื่องการเสียเงิน เราต้องดูว่า เสียเงินแล้วจะต้องเสียแบบไหน NAVติดลบ หรือ cut lossถ้าคนที่ไม่สามารถ ทน NAV ติดลบได้แสดงว่ารับธรรมชาติของสินทรัพย์ ในตลาดเงินไม่ได้ ก็ไม่ควรลงทุนในตลาดเงิน เพราะจะเป็นความทุกข์ในการลงทุน หรือถ้าเลือกcut loss แบบที่ยังไม่มีความรู้ ไม่มีประสพการณ์ ไม่มีความเข้าใจ อาจเป็นไปได้ว่า การcut loss ของเราคือการที่เราหนี ความกลัวเสียเงิน เมื่อมีการcut loss อาจไปสร้างวงจร การทำนาย เมื่อทำนายถูกก็ดีไป แต่ถ้าทำนายผิด ก็ต้องกลับมาcut lossอีก กลายเป็น วงจรที่แย่กว่าเดิม
บางครั้งจากการที่เรา ใส่พลังงานให้จิตใจมากขึ้นๆ จิตใจจะพัฒนาขึ้นเป็นEGO
วิธีการฝึกจิตใจบางครั้งต้อง ลดพลังงานที่ใส่ให้จิตใจ เช่น การฝึกอดอาหาร หรือใช้โมเดลจำกัดทรัพยากรณ์ในการเทรด ซึ่งต้องใช้เวลาในการฝึกฝน เพื่อให้ซึมซับเข้าไปในจิตใจ
ทุกทางเลือก ทุกการกระทำในการเทรด เราจะถูกขับเคลื่อน ด้วยEGO ในตัวเรา EGO มีข้อดีในการที่ทำให้เรามั่นใจในการทำสิ่งต่างๆ แต่ ข้อเสียถ้าEGO ของเราทำให้เราไม่สามารถยอมรับมุมมอง หรือความรู้ที่ไม่เหมือนกับสิ่งที่เราเชื่อ ทำให้ขัดขวางการเรียนรู้หรือปิดมุมมองใหม่ๆให้กับชีวิตเรา เช่นการเลือก ทุน เราจะเลือกการพัฒนาความสามารถของเราให้เหมาะสมกับแหล่งทุนจาก EGOของเรา เราจะเลือกใช้ ทุนตัวเอง หรือทุนของคนที่มี ความเชื่อเหมือนๆเรา ,หรือ แหล่งทุนจากต่างชาติ ที่เค้าเชื่อในระบบที่มีการจัดการความเสี่ยง , ไม่ขึ้นกับการทำนาย หรือไม่ขึ้นกับความสามารถส่วนตัวสูงๆ
การเลือกระบบเทรด ก็ใช้EGO ด้วยเช่นกัน เพราะ ในการเทรดมีหลายระบบ บางระบบ มีอัตราความสำเร็จต่ำ(มีคนที่ทำจนสำเร็จมีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับคนเข้าไป)แต่คนที่สำเร็จจะเด่น หรือได้ผลตอบแทนสูงๆ หรือบางระบบเป็นระบบที่เรียบง่าย แต่มีอัตราคนสำเร็จสูง(จำนวนคนที่ทำจนสำเร็จมีมากเมื่อเทียบกับจำนวนคนที่เข้าไป)แต่ผลตอบแทนอาจจะไม่หวือหวา ฯลฯ
เครดิต พี่ต้าน https://youtu.be/P1VtGiFBjIs
Inscription à :
Articles (Atom)